Sports

เจ้าพ่อเกมรับตกยุค

ลูก้า โมดริช อดีตมิดฟิลด์ เรอัล มาดริด ได้ออกมาย้อนความ

Written by marker berg
· 1 sec read >

ลูก้า โมดริช อดีตมิดฟิลด์ เรอัล มาดริด ได้ออกมาย้อนความหลังผ่านหนังสืออาชีวะประวัติของตนเองโดยยกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่น่าสนใจโดยระหว่างศึก โกปา เดลเรย์ ที่ทีมเรอัล มาดริด นำอยู่ 2-0 นั้น ช่วงพักเบรคครึ่งแรก โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม เรอัล มาดริด ขณะนั้น จู่ๆได้ระเบิดอารมณ์ใส่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อย่างหนักเป็นภาษาโปรตุกีส จากการที่โรนัลโด้ ไม่ช่วยเพื่อนวิ่งตามประกบคู่แข่งในจังหวะหนึ่ง จนถึงขั้นที่ โรนัลโด้ เองควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จนเพื่อนร่วมทีมต้องลุกขึ้นแยกทั้งคู่ออกจากกัน โดย โรนัลโด้ ก็ได้ทำการตอบโต้ ด้วยการบอกว่า ตนพยามช่วยเพื่อนร่วมทีมและทุ่มเททุกอย่างแล้วเช่นกัน

จริง ๆ แล้ว สไตล์การคุมทีมของมูรินโญ่นั้น ขึ้นชื่อเรื่องการเล่นฟุตบอลเน้นรายละเอียดการป้องกันเป็นสิ่งแรกไม่เสี่ยงบู่มบ่ามเปิดหน้าแรกกะใครทั้งสิ้น ซึ่งต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก สำหรับนักเตะ พรสววรค์ที่ชอบเล่นเกมรุก โดยเฉพาะการเล่นฟุตบอลเกมรับนั้น ต้องอาศัย ความละเอียด ระแวดระวัง อดทน อุตสาหะ อย่างสูง ตลอด 90 นาที จึงจะได้ผลการแข่งขันตามที่ต้องการ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับนักเตะเกมรุก ที่ต้องการโชว์ทักษะ และใช้สกิลในการเล่นบอลอย่าง “คริสเตียโน่ โรนัลโด้ “

อย่างที่รู้กันดี ว่ามูรินโญ่เองก็ไม่สนใครหน้าไหนเหมือนกัน เพราะ ตลอดระยะเวลาที่ เฮียมู ประสบความสำเร็จมานั้น นั่นมาจาก สไตล์ฟุตบอลที่เล่นเน้นรัดกุมเสมอ ตั้งรับ ใช้บอลยาวโต้กลับ ไปให้ปีกซ้ายขวา เลี้ยงจี้กินตัวเข้าใน หรือ โยนบอลจากด้านข้างเข้าใน เพื่อให้กองหน้าที่มีรูปร่างปราดเปรียวสูงใหญ่ อย่างเช่น เบนนี่ แมคคาร์ธี่ย์ ดีดิเยร์ ดร็อกบา หรือ ดีเอโก้ มิลิโต้ ช่วยกันจบสกอร์ นั่นสูตรหมากเด็ดที่ มูรินโญ่ ใช้พิชิตบรรดายอดเทรนเนอร์และสโมสรต่างๆ มานักต่อนัก ถึงขนาดที่ได้ ทริปเปิ้ลแชมป์ ก็ทำให้เห็นมาแล้ว 

แต่กาลเวลาเปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยน ฟีฟ่าเริ่มมีนโยบายให้ ฟุตบอลเล่นเกมส์รุกให้มากขึ้น ออกกฏต่างๆ เพื่อให้ประโยชน์กับฟุตบอลที่เล่นเกมรุกมาก่อน โดยเฉพาะ การที่มีมาตรการให้ผู้ตัดสินเพลย์เซฟกับผู้เล่นให้มากขึ้น นั่นเป็นข้อดีในการป้องกันและยืดอายุไม่ให้นักเตะเกมส์รุกต้องเจ็บหนักอย่างที่แล้วๆมา

ฟุตบอลของ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ที่เน้นเรื่องการครองบอลจึงถือว่าเข้าทางไม่น้อย ใช้ผู้เล่นที่มีทักษะครองบอล เคลื่อนตัวหาพื้นที่ว่าง เข้าทำจู่โจมที่รวดเร็ว คือกลยุทธ์ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ขณะที่เกมส์รับ เน้นการเพลสซิ่งตั้งแต่แดนบน ดันกองหลังขึ้นสูงเพื่อเช็คล้ำหน้า นั่นทำให้ คู่ต่อสู้ ทุกทีมตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากทุกครั้งยามที่ต้องเจอ 

แม้แต่มูรินโญ่ที่ว่าแน่ เจ้าพ่อแท็คติคเกมรับยังต้องเลี้ยว ให้กับ ฟุตบอล ติกี้ ตาก้า ของกวาร์ดิโอล่า ก็เพราะฟุตบอลเกมรับของมูรินโญ่นั้นเป็นสไตล์แข็งกร้าว เน้นการเข้าปะทะจัดหนัก ซึ่งฟุตบอลติกี้ตาก้านั้นรู้ทางดีแล้ว จึงแก้ด้วยการครองบอลเหนียวแน่น เคลื่อนที่สลับต่ำแหน่งให้เยอะ เพื่อสร้างทราฟฟิค ที่คาดเดาทิศทางได้ยาก จึงเป็นการยากที่ทำการประกบคู่ต่อสู้แบบ Man to man ทำได้แค่ Mark Zone ทั่วไป จึงโดนเล่นงานด้วยผู้เล่นที่มีความเร็วสูงประกอบกับการต่อบอลทำชิ่ง 1-2 ไม่กี่จังหวะถึงหน้าประตู จึงเป็นการยากจะป้องกัน 

ซึ่งเพลานี้นี้เมื่อผ่าน การคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ มามีโอกาศได้คุมสเปอร์ ก็ดูเหมือนว่า โชเซ่ เองก็ยังคงยึดฟุตบอลสไตล์เดิมๆ อยู่ซึ่งบางครั้งมันดูเหมือนยิ่งเล่นก็ยิ่งหมดมุกขึ้นไปทุกวัน ซึ่งสุดท้ายแล้ว สเปอร์จะกลับมาติดท็อปโฟร์ในฤดูกาลต่อๆไปได้หรือไม่ เรื่องนี้จะเป็นบทพิสูจน์ปราบกูรูชั้นดีให้ทุกคนได้เห็นกัน 

ใส่ความเห็น