หากเราย้อนเวลากลับไปในช่วงสงครามโลกยุคที่ 2 มักจะมีเรื่องเล่าถึงความโหดร้ายต่างๆนาๆที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ซึ่งคนทั้งโลกต่างเหมารวมว่าทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะชายที่เป็นผู้นำของกลุ่ม นาซี ที่มีนามว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แต่จริงๆแล้วนั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่โหดร้ายทารุณ โดยในวันนี้เราจะยกตัวอย่างเรื่องราวอันโหดร้ายของชายที่มีอาชีพเป็น หมอ คอยรักษาผู้คน แต่หมอคนนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะเขาไม่ใช่แคไม่รักษา แต่เขายังนำผู้คนเหล่านั้นมาทดลองแปลกๆ ซึ่งคนที่โดนจับไปทดลองล้วนแล้วแต่ไม่มีลมหายใจกลับมา จนเขาถูกตั้งฉายาว่า ยมฑูตแห่งความตาย และนามของหมอโหดผู้นี้ก็คือ ” โจเซฟ เมงเกเลอ ”
โจเซฟ เมงเกเลอ เป็นใครมาจากไหน ?
โจเซฟ เมงเกเลอ ลืมตาดูโลกเมื่อปี ค.ศ.1911 ที่ประเทศเยอรมนี ในวัยเด็กเขาเรียนเรียนเก่งมากๆมีความสนใจในเรื่องของศิลปะและดนตรีเป็นพิเศษ หลังจากที่เขาเรียนจบระดับชั้นมัธยมปลาย เขาได้ไปเรียนต่อในด้านของปรัชญาที่มิวนิค ซึ่งในช่วงเวลนานั้น สำนักงานใหญ่ของกลุ่ม นาซี ก็อยู่ที่เมืองนั้นพอดี เมงเกเลอ จึงตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มนาซี
ในปี ค.ศ.1935 เมงเกเลอได้เรียนจบปริญญาเอกสาขามานุษวิทยา ต่อมาเขาก็ได้เข้าทำงานในหน่วยของกองทัพนาซีที่เกี่ยวข้องกับชีววิทยาและสุขภาพศาสตร์ ซึ่งงานที่เขาทำนั้นมันตรงกับสาขาที่เขาเรียนมาพอดี ทำให้ในตอนนั้นเมงเกเลอมีความสุขกับการทำงานให้กับนาซีเป็นอย่างมาก
ดร.เมงเกเลอ สมัยเริ่มต้นทำงานกับกองทัพนาซี
ต่อมาในปี ค.ศ.1940 เมงเกเลอ ถูกเรียกตัวให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมแพทย์ในกองทัพนาซี และเข้าทำงานอยู่ในหน่วยที่ต้องคัดเลือกคนเข้ามาทำการทดลอง แต่ยังไม่ค่อยมีประเด็นอะไรมากนัก จนในปี ค.ศ.1943 เมงเกเลอถูกส่งตัวมายังค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ และที่ค่ายแห่งนี้นี่เองที่เป็นต้นกำเนิดฉายา “ยมฑูตแห่งความตาย”
เมงเกเลอได้รับอำนาจเด็ดขาดในค่ายแห่งนี้ที่เขาสามารถจะเลือกนักโทษคนใดก็ได้มาทำการทดลอง ซึ่งการทดลองแต่ะอย่างของเขานั้นค่อนข้างวิปลาสโดยเฉพาะกับนักโทษที่เป็นคู่ฝาแฝดจะโดนเมงเกเลอจับมาทดลองมากที่สุดเพราะว่าฝาแฝดนั้นมีหลายๆอย่างที่ค่อนข้างเหมือนกัน ส่วนนักโทษที่เขาไม่ได้เลือกก็จะถูกจับไปรมแก๊สจนตาย
เหล่านักโทษในค่ายกักกันเอาช์วิทซ์
การทดลองของเมงเกเลอนั้นได้ชื่อว่าโหดร้ายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นการที่เขาเอานักโทษมาใส่ไว้ในห้องที่เย็นจัดเพื่อเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตอนเข้าห้องไปใหม่ๆจนถึงวันที่นักโทษคนนั้นทนไม่ไหวและตายเพราะความหนาว รวมทั้งการผ่าตัดสลับอวัยวะของนักโทษซึ่งการผ่าตัดของเขานั้นจะเป็นการผ่าตัดสดๆโดยไม่ใช่ยาชาแม้แต่นิดเดียว และที่แปลกสุดๆก็คือเขาฉีดสารสีฟ้าเข้าไปที่ดวงตาของผู้ทดลองเพื่อหวังจะเปลี่ยนให้นักโทษคนนั้นกลายเป็น “ชาวอารยัน” อีกด้วย
ด้วยความโหดร้ายในการทดลองของเมงเกเลอ จึงทำให้สิ่งที่เขาทำไม่เป็นที่ยอมรับของวงการการแพทย์เพราะมันคือความดิบเถื่อนที่เกินกว่าจะยอมรับได้และนับว่าเป็นอาชญากรรมได้เลยทีเดียว
หลังจากที่เยอรมนีพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวของเมงเกเลอก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ชื่อปลอมและต้องย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1957 เขาได้ถูกจับกุมเนื่องจากเป็น 1 ในทีมแพทย์ที่รับทำแท้ง จนทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาใช้บริการเสียชีวิต ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่เกือบ 10 ปี
และในปี ค.ศ.1979 ก็มาถึงฉากสุดท้ายของเมงเกเลอ ในขณะที่เขากำลังว่ายน้ำอย่างสบายใจอยู่นั้น อยู่ๆเขาก็เกิดช็อคและเสียชีวิตลง โดยสาเหตุน่าจะมาจากอาการหัวใจวายหรือไม่ก็เส้นเลือดในสมองแตก โดยการตายในปี 1979 ของเขานั้นก็ถูกปกปิดเป็นความลับอยู่นานหลายปี ซึ่งในขณะนั้นเขาก็ถูกตั้งค่าหัวด้วยเงินจำนวนมาก และใน ค.ศ.1985 ศพของเขาก็ถูกขุดขึ้นมาตรวจสอบและหลายๆคนลงความเห็นว่านี่คือศพของเมงเกเลอจริงๆแต่ก็ยังไม่ 100% จนในปี ค.ศ.1992 ก็ได้มีการนำเอา DNA ที่หลงเหลืออยู่จากศพของเขาไปเทียบกับญาติๆทำให้ได้ข้อสรุปว่าเมงเกเลอตายแล้วจริงๆ เป็นอันปิดฉากตำนาน “ยมฑูตแห่งความตาย” อย่างถาวร